หากคุณมีพื้นที่ในทำเลดีๆสักแห่งและกำลังมองหาธุรกิจลงทุนแบบที่ไม่ต้องปวดหัวเรื่องดูแลพนักงานและไม่ต้องจ้างคนทำงานเพิ่มให้ยุ่งยาก การลงทุนธุรกิจร้านสะดวกซักแบบหยอดเหรียญหรือแฟรนไชส์เครื่องซักผ้า เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะด้วยรูปแบบธุรกิจที่บริหารงานง่าย คืนทุนไวและเปิดบริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ธุรกิจยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ในบทความนี้ เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักธุรกิจร้านซักผ้าหยอดเหรียญกันมากขึ้น เริ่มต้นซื้อแฟรนไชส์เครื่องซักผ้า ลงทุนเท่าไหร่ดี? ต้องพิจารณาปัจจัยเรื่องอะไรบ้าง วันนี้เรามีคำแนะนำ พร้อมสิ่งที่ต้องดูก่อนตัดสินใจเปิดร้านสะดวกซักมาแชร์กัน
ข้อดีของการเปิดร้านซักผ้า ในระบบแฟรนไชส์ สะดวกซัก
การใช้บริการแฟรนไชส์ธุรกิจเครื่องซักผ้าหรือร้านซักผ้าหยอดเหรียญแล้ว เริ่มมีความต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ ในย่านนักศึกษาและคนทำงาน เพราะเป็นสิ่งจำเป็น โดยเหมาะกับห้องพักที่ไม่มีพื้นที่ในการวางเครื่องซักผ้าและคนที่ต้องการประหยัดเวลาในการซักผ้าเอง ซึ่งข้อดีของเปิดร้านซักผ้า ลงทุนในระบบแฟรนไชส์ สะดวกซัก มีดังนี้
1. ได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์
เริ่มต้นเป็นเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ร้านสะดวกซักได้เลยทันที โดยที่คุณไม่ต้องเวลาปั้นแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก เพราะระบบแฟรนไชส์เหล่านี้มีชื่อเสียงและลงทุนทำโปรโมทในด้านต่างๆมาแล้วพอสมควร ทำให้เมื่อคุณเข้ามาเป็นเจ้าของแฟรนไชส์ธุรกิจร้านซักผ้าหยอดเหรียญสามารถทำกำไรได้เลยโดยที่ไม่ต้องลงทุนงบการตลาดมหาศาล
2. ระบบการทำงานที่คล่องตัว
ในระหว่างการทำธุรกิจส่วนใหญ่ช่วงเริ่มต้น เจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่มักไม่เข้าใจเรื่องระบบบริหารงานส่วนต่างๆและการดูแลเครื่องซักผ้า แต่สำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก เจ้าของแฟรนไชส์มีการวางระบบบริหารงาน ดูแลเครื่องจักรต่างๆมาไว้ให้อยู่แล้ว ทำให้เมื่อคุณเกิดปัญหาเรื่องระบบการทำงานต่างๆ จะมีทีมงาน
ของแฟรนไชส์เหล่านี้ สามารถให้คำแนะนำและช่วยจัดการปัญหาได้ทันที
3. ลดความเสี่ยงในการเริ่มต้นธุรกิจใหม่
แน่นอนว่าการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ เจ้าของธุรกิจจะต้องทำความเข้าใจตลาดและพฤติกรรมลูกค้าของแบรนด์มาอย่างถี่ถ้วน ซึ่งข้อดีของระบบแฟรนไชส์ คือนักลงทุนไม่ต้องลองผิดลองถูกเอง และช่วยลดความเสี่ยงด้านต้นทุนของธุรกิจได้เป็นอย่างดี เพราะคุณจะมี Mentor อย่างเจ้าของแฟรนไชส์มาช่วยให้คำแนะนำในการบริหารธุรกิจต่างๆอีกทาง
4. ลดค่าต้นทุนจ้างพนักงาน
การทำธุรกิจมีต้นทุนค่าใช้จ่ายคงที่ที่เจ้าของธุรกิจต้องเผื่อเอาไว้ทุกเดือน หากเดือนไหนทำยอดขายได้น้อย จะยิ่งกระทบกับค่าจ้างพนักงานตามไปด้วย แต่หากเป็นระบบแฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพราะคุณไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายส่วนนี้ แถมยังช่วยลดต้นทุนได้อีกด้วย
สะดวกซักไปแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆที่นักลงทุนจะต้องเผื่องบประมาณไว้ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าซ่อมบำรุงเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้าและค่าการตลาดสำหรับโปรโมทแบรนด์ในช่วงแรก ให้คนเข้ามาใช้บริการ การเริ่มต้นธุรกิจร้านสะดวกส่วนใหญ่ต้นทุนจะไปอยู่ที่ค่าก่อสร้างและบริหารจัดการระหว่างดำเนินการมากกว่า ทำให้ร้านสะดวกซักเป็นธุรกิจโอกาสที่น่าลงทุนในปีนี้
ลงทุนร้านสะดวกซักให้คุ้มค่า ได้กำไรคืนมาต้องดูอะไรบ้าง
การเริ่มต้นทำธุรกิจสักอย่าง นักลงทุนควรทำความเข้าใจตลาด ลูกค้าและคู่แข่งอยากรอบคอบ เพื่อลดความเสี่ยงต่างๆที่อาจะเกิดขึ้น หากอยากลงทุนร้านสะดวกซักแบบได้กำไรคืนและไม่ขาดทุน ต้องดูปัจจัยเรื่องอะไรบ้าง นี่คือสิ่งที่นักลงทุนต้องดูกัน!
1. ทำเลที่ตั้ง
การเริ่มต้นร้านซักผ้าหยอดเหรียญ ลงทุนรูปแบบแฟรนไชส์ ควรศึกษาทำเลที่ตั้งก่อนเริ่มลงทุนเป็นอันดับแรก ควรเลือกทำเลที่ตั้งในย่านที่พักของนักศึกษา คอนโด อพาร์เมนต์ของคนทำงานเป็นหลัก ศึกษาจำนวนร้านคู่แข่งบริเวณรอบๆและจำนวนคนเข้า- ออกในย่านนั้น เพื่อประเมินความน่าสนใจของการลงทุน
2. ขนาดของร้าน
เพราะขนาดร้านสะดวกซักมีผลต่อการลงทุนและจัดวางเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้าและเฟอร์นิเจอร์เพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้า หากขนาดร้านเล็กจนเกินไป อาจทำให้การตกแต่งพื้นดูแคบจนเกินไป แนะนำว่า นักลงทุนควรลงไปดูพื้นที่ขนาดร้านจริงก่อนทุกครั้ง
3. กลุ่มเป้าหมาย
พฤติกรรมของลูกค้าในแต่ละย่านมักแตกต่างกันออกไป เพราะหากไปตั้งในทำเลพนักงานบริษัท รูปแบบการใช้บริการร้านสะดวกซักมักจะเป็นช่วงวันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ แต่หากเป็นในย่านนักเรียน นักศึกษาและหมู่บ้านต่างๆ การใช้บริการจะเน้นเป็นช่วงวันธรรมดาได้
ทั้งนี้ การทำความเข้าใจพฤติกรรมกลุ่มหมาย จะช่วยให้นักลงทุนออกแบบแคมเปญและโปรโมชั่นที่ดึงดูดยอดขายได้น่าสนใจยิ่งขึ้น
4. ภาพรวมคู่แข่ง
การศึกษาคู่แข่งในบริเวณใกล้เคียงและกลยุทธ์ที่คู่แข่งใช้ จะช่วยให้นักลงทุนทำการตลาดได้ดีเยี่ยมยิ่งขึ้น หากทำเลเหล่านั้นยังไม่มีแบรนด์คู่แข่งมาลงหรือมีคู่แข่งน้อย จะถือว่าเป็นพื้นที่ที่น่าลงทุนและมีโอกาสทางการขายสูงขึ้น
5. แบรนด์แฟรนไชส์ที่น่าเชื่อถือ
การวางระบบงานที่มีประสิทธิภาพและบริการหลังการขายเป็นเรื่องที่สำคัญ สำหรับธุรกิจนี้ เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่มักจะเจอปัญหาระหว่างอยู่เป็นประจำ
ดังนั้น การเลือกแบรนด์แฟรนไชส์ร้านสะดวกซักที่น่าเชื่อถือจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเจ้าของแฟรนไชส์ สามารถช่วยวางแผนการทำธุรกิจไว้อย่างมีประสิทธิภาพในตลาด ทำให้นักลงทุนสามารถศึกษาหาข้อมูลและได้รับคำแนะนำดีๆตลอดการทำธุรกิจแบบไม่ต้องมาลองผิดลองถูกเองและไม่มีต้นทุนความเสี่ยงสูง
สำหรับคนที่อยากลงทุนร้านสะดวกซัก แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี แนะนำให้ปรึกษาเรา Maru Laundry ธุรกิจซักอบผ้า 24 ชม. ดูแลง่ายไม่ยุ่งยาก คืนทุนไว กำไรทุกวัน ไม่เก็บส่วนแบ่งรายได้ ค่าแฟรนไชส์, Royalty fee, การตลาด เครื่องซักผ้าที่มารุใช้ เป็นแบรนด์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ยอดนิยมในญี่ปุ่น อายุการใช้งานมากกว่า 10 ปี 1 เครื่อง 2 ฟังก์ชั่น ทั้งเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าในตัว ทำให้คุณลงทุนกับจำนวนเครื่องน้อยกว่า ช่วยประหยัดพื้นที่และค่าเช่า มีแอปพลิเคชัน และระบบช่วยบริหารจัดการร้านที่ทันสมัย มีรูปแบบการชำระเงินที่หลากหลาย ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ
ลงทุนเปิดร้านสะดวกซักกับมารุ Maru Laundry พร้อมสร้างรายได้และเติบโตได้อย่างมั่นคง สนใจสมัครแฟรนไชส์เครื่องซักผ้า ติดต่อ 02-118-2959 หรือที่เว็บไซต์ Maru Laundry
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการลงทุนแฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก
เปิดร้านซักผ้าหยอดเหรียญต้องมีใบอนุญาตอะไรบ้าง?
การเปิดร้านซักผ้าหยอดเหรียญ ลงทุนร้านสะดวกซักหรือแฟรนไชน์ร้านสะดวกซัก ไม่ต้องขอใบอนุญาตทางกฎหมายใดๆ ไม่ต้องจดแจ้งทะเบียนพาณิชย์เพราะธุรกิจนี้อยู่ในรูปแบบการบริการ ทำให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ฯ
ควรเลือกซื้อเครื่องซักผ้าจากยี่ห้อไหนดี?
ความสะอาดของผ้าขึ้นอยู่กับยี่ห้อเครื่องซักผ้าที่ใช้หยอดเหรียญ การเลือกเครื่องซักผ้าคุณภาพดี แนะนำให้เลือกเครื่องซักผ้ายี่ห้อมาตรฐานและเป็นรูปแบบฝาหน้า เพราะสะดวกต่อการใช้งาน โดยควรเช็กระยะเวลาการใช้งานว่า สามารถปั่นผ้าได้สูงสุดกี่รอบต่อวันประกอบกัน
วิธีการหาทำเลที่ตั้งที่ดีสำหรับร้านซักผ้า?
การหาทำเลที่ตั้งที่ดีสำหรับร้านสะดวกซัก เป็นปัจจัยแรกที่นักลงทุนควรใส่ใจ โดยควรพิจารณพื้นที่ที่เดินทางสะดวก ใกล้ย่านที่พักอาศัย หอพักระยะสั้นและมีที่จอดรถสำหรับรอระหว่างใช้บริการ ดูคำแนะนำการหาทำเลร้านสะดวกซักเพิ่มเติมได้ที่นี่
การเริ่มต้นร้านซักผ้าหยอดเหรียญ ลงทุนแฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญโดยทั่วไปต้องใช้เงินลงทุนเริ่มต้นตั้งแต่ 200,000 - 1,000,000 บาท เป็นต้นไป ขึ้นอยู่กับขนาดธุรกิจและอุปกรณ์ที่เลือกใช้ โดยค่าใช้จ่ายหลักประกอบด้วยค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ (หากเลือกแบรนด์), ค่าเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า, ค่าติดตั้งระบบน้ำและไฟฟ้า, ค่าเช่าหรือปรับปรุงสถานที่ และค่าใช้จ่ายในการตลาดเบื้องต้น
การเลือกแบรนด์แฟรนไชส์ที่มีชื่อเสียงจะช่วยลดความเสี่ยงในการทำธุรกิจและเพิ่มโอกาสดึงดูดลูกค้าได้ แต่ควรพิจารณาเงื่อนไขและการสนับสนุนจากเจ้าของแฟรนไชส์อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง