
การแช่ผ้าค้างคืน เป็นหนึ่งในความเชื่อหนึ่งที่คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับการซักผ้า เพราะหลายคนมองว่า หากแช่ผ้าด้วยผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าไว้นานเท่าไหร่ จะทำให้คราบสกปรกหลุดออกง่ายขึ้น ขยี้ผ้าซักมือแล้ว ทำให้รอยเปื้อนบนผ้าจางลง แต่ความจริงแล้ว การแช่ผ้าค้างคืน กลับทำให้ผ้ามีกลิ่นอับและแบคทีเรียติดแน่นในผ้ายาวนานขึ้น
สำหรับใครที่กำลังมองหาเคล็ดลับในการซักผ้าให้สะอาด ขจัดคราบสกปรกให้หลุดออกง่ายขึ้น เรารวบรวมเคล็ดลับซักผ้าให้สะอาด หอมเหมือนใหม่จากเทคนิคของธุรกิจร้านสะดวกซัก มาแนะนำกัน
จริงหรือไม่? แช่ผ้าก่อนซัก จะทำให้ผ้าที่ซักไม่สะอาด
การแช่ผ้า คือการนำผ้าไปแช่ในน้ำ หรือในสารละลายที่ผสมผงซักฟอก น้ำยาซักผ้า หรือผลิตภัณฑ์ขจัดคราบ เพื่อช่วยให้สิ่งสกปรก คราบฝังแน่น และกลิ่นไม่พึงประสงค์หลุดออกได้ง่ายขึ้น
หลักการทำงานของการแช่ คือให้น้ำและสารทำความสะอาดซึมเข้าไปในเส้นใยผ้า เพื่อค่อยๆ ทำลายและคลายคราบสกปรกที่เกาะอยู่ เมื่อแช่ครบตามเวลาที่เหมาะสม คราบก็จะอ่อนตัวลง และสามารถซักออกได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ดี การแช่ผ้านานเกินไป แช่ผ้าค้างคืน อาจทำให้เส้นใยผ้าเสียหายและผ้าเหม็นมีกลิ่นอับได้ จึงไม่แนะนำให้คุณใส่ผงซักฟอกแช่ผ้า ไว้นานเกิน 1 วัน
ทำไมธุรกิจร้านสะดวกซัก ไม่แนะนำให้แช่ผ้าค้างคืน
การแช่ผ้าค้างคืน แม้จะช่วยให้คราบสกปรกหลุดง่ายขึ้น แต่ก็มีข้อเสียที่ต้องระวัง เช่น การเกิดกลิ่นอับ เพราะผ้าแช่อยู่ในน้ำเป็นเวลานาน นอกจากนี้ ผ้าบางประเภทอย่างผ้าฝ้าย ผ้าไหม หรือผ้าลูกไม้ อาจเสียหาย เส้นใยเปราะ หรือเนื้อผ้าแข็งกระด้างได้หากแช่นานเกินไป เพราะ จะทำให้เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตได้ง่าย เพิ่มการสะสมของเชื้อโรคในเส้นใยผ้า ทำให้เกิดปัญหาผ้ามีกลิ่นอับ ผ้าเหม็นเวลาซักผ้า แม้ว่าคุณจะตากผ้ากลางแจ้ง
อีกทั้งสารเคมีในผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าบางชนิด อาจทำให้สีผ้าซีด หรือทำให้ผ้าเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ดังนั้น ควรแช่ผ้าในระยะเวลาที่เหมาะสม และเลือกใช้น้ำยาที่อ่อนโยนต่อเนื้อผ้า จะช่วยถนอมผ้าให้อยู่ในสภาพดีได้นานที่สุด
ใช้บริการแฟรนไชส์ซักผ้า แช่ผ้านานเท่าไหร่? ผ้าถึงจะสะอาดซักออกง่าย
แนะนำให้แช่ผ้าในน้ำยาซักผ้าหรือน้ำผสมผงซักฟอกประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง ก็เพียงพอที่จะช่วยให้คราบสกปรกหลุดออกได้ง่ายขึ้น สำหรับคราบหนักหรือคราบฝังแน่น อาจแช่ได้นานขึ้นเป็น 2–3 ชั่วโมง แต่ไม่ควรแช่ผ้าทิ้งไว้นานเกิน 6–8 ชั่วโมง เพราะอาจทำให้เนื้อผ้าเสื่อมสภาพ หรือเกิดกลิ่นอับได้ หากเป็นผ้าบอบบาง เช่น ผ้าไหม หรือผ้าลูกไม้ ควรแช่ในระยะเวลาสั้นกว่านั้น และเลือกใช้น้ำยาที่อ่อนโยน เพื่อถนอมเนื้อผ้าไม่ให้เสียหาย
เคล็ดลับในการซักผ้าให้สะอาดจาก ธุรกิจร้านสะดวกซัก
การซักผ้าให้สะอาดไม่ใช่แค่การใส่ผ้าลงเครื่องซักแล้วเทผงซักฟอกตามไปเท่านั้น และนี่คือเคล็ดลับช่วยซักผ้าให้ผ้าสะอาดหมดจด ขจัดคราบฝังแน่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังช่วยถนอมเนื้อผ้าให้ดูใหม่อยู่เสมอ ใครที่อยากซักผ้าได้สะอาดขึ้น ไม่ต้องซักซ้ำหลายรอบ มาดูเคล็ดลับง่ายๆ ที่ทำได้จริงกันเลย
1. ใช้น้ำยาซักผ้าแทนผงซักฟอกหากใช้เครื่องซักผ้า
การใช้น้ำยาซักผ้าจะเหมาะกับการซักด้วยเครื่องซักผ้ามากกว่า เพราะน้ำยาซักผ้ามีคุณสมบัติในการละลายน้ำได้ดีกว่า ช่วยลดปัญหาคราบผงซักฟอกตกค้างบนผ้า และยังซึมซาบเข้าสู่เส้นใยผ้าได้รวดเร็ว ทำให้การทำความสะอาดมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ น้ำยาซักผ้าหลายสูตรยังมีส่วนผสมที่ช่วยถนอมเนื้อผ้าและลดกลิ่นอับ ทำให้เหมาะกับการซักผ้าทั้งในเครื่องซักผ้าทั้งแบบฝาหน้าและฝาบน
2. ทำความสะอาดเฉพาะจุดก่อนซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้า
หากเสื้อผ้ามีคราบสกปรกฝั่งแน่นเฉพาะจุดบนเนื้อผ้า แนะนำให้คุณซักผ้า 2 รอบ โดยครั้งแรกให้ลองซักขยี้มือก่อน เพื่อทำความสะอาดคราบฝั่งแน่นเฉพาะจุดต่างๆ ให้หลุดออก เพราะคราบแต่ละประเภท ใช้เทคนิคการขยี้มือและมีเคล็ดลับขจัดคราบแตกต่างกันออกไป แนะนำให้คุณขยี้ผ้าจนรอยเปื้อนต่างๆ หลุดออกให้หอดก่อน แล้วนำไปซักด้วยเครื่องซักผ้าอีกครั้ง จะทำให้ผ้าสะอาดทั่วถึงกันทั้งหมด
3. ไม่ใส่ผงซักฟอก/น้ำยาซักผ้าเยอะเกินไป
ไม่ควรใส่ผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้ามากเกินความจำเป็น เพราะการใช้ปริมาณที่มากเกินไปไม่ได้ช่วยให้ผ้าสะอาดขึ้น แต่กลับทำให้เกิดคราบตกค้างบนเนื้อผ้า และอาจทำให้เครื่องซักผ้าทำงานหนักขึ้นจนเสี่ยงต่อการเสียหาย นอกจากนี้ ฟองที่มากเกินไปยังล้างออกได้ยาก ส่งผลให้ผ้ามีกลิ่นอับและระคายเคืองผิวได้ง่าย ดังนั้นควรใส่ในปริมาณที่เหมาะสมตามคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์การซักที่ดีที่สุดและถนอมทั้งผ้า

คำถามที่พบบ่อย
ถ้าผ้ามีคราบฝังแน่นมาก ควรทำอย่างไรแทนการแช่ค้างคืน?
A : เทคนิคของแฟรนไชส์ซักผ้า ธุรกิจร้านสะดวกซัก ที่นิยมใช้กันหากผ้ามีคราบฝังแน่นมาก แนะนำให้ใช้น้ำยาขจัดคราบสกปรก เทลงบนบริเวณที่เปื้อนโดยตรง แล้วแช่ทิ้งไว้ประมาณ 5–15 นาที ก่อนขยี้ผ้าด้วยมืออีกครั้ง วิธีนี้ช่วยขจัดคราบได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องแช่ผ้านานจนเสี่ยงทำให้เนื้อผ้าเสียหาย
มีวิธีใดบ้างที่จะช่วยให้ผ้าที่ซักแล้วหอมสดชื่นนานขึ้น?
A : การทำให้ผ้าที่ซักแล้วหอมสดชื่นได้นานขึ้นสามารถทำได้หลายวิธี เริ่มจากการเลือกใช้น้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีกลิ่นหอมติดทนนาน และควรตากผ้าให้แห้งสนิททันทีหลังซักเสร็จ เพื่อป้องกันกลิ่นอับชื้นสะสม การตากผ้าในที่ที่มีลมถ่ายเทดีหรือมีแดดอ่อน ๆ จะช่วยให้ผ้ากลิ่นหอมยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การเก็บผ้าในตู้ที่สะอาด มีการวางถุงหอม หรือใช้น้ำหอมสำหรับผ้าฉีดเบา ๆ ก่อนพับเก็บ ก็เป็นอีกเคล็ดลับที่ช่วยให้ผ้ามีกลิ่นหอมสดชื่นยาวนานขึ้น
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ เราคือ มารุ สะดวกซัก ร้านซักผ้าหยอดเหรียญสไตล์ญี่ปุ่นในรูปแบบใหม่ ซึ่งนำเข้าเครื่อง Tosei จากประเทศญี่ปุ่นดำเนินการภายใต้บริษัท กันยง ลอนดรี้ จำกัด เรามีทีมงานที่มีคุณภาพช่วยวิเคราะห์ให้คำปรึกษาและทีมงานออกแบบ ตกแต่งร้านที่เป็นมืออาชีพ
อีกหนึ่งทางเลือกดีที่สุดในการลงทุนร้านสะดวกซัก พร้อมสร้างรายได้และเติบโตได้อย่างมั่นคง สนใจสมัครแฟรนไชส์เครื่องซักผ้า ติดต่อ 02-118-2959 หรือที่เว็บไซต์ Maru Laundry